Home การเมือง “ประยุทธ์” ระบุโครงการคนละครึ่งเป็นการขับเคลื่อนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย ตราบใดที่มีงบประมาณ จะเร่งเดินหน้าเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย

“ประยุทธ์” ระบุโครงการคนละครึ่งเป็นการขับเคลื่อนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย ตราบใดที่มีงบประมาณ จะเร่งเดินหน้าเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย

by Editor staff

ไฮไลท์การเมือง : นายกรัฐมนตรีระบุโครงการคนละครึ่ง เป็นการขับเคลื่อนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ค้าปลีก ตราบใดที่มีงบประมาณเพียงพอรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งเดินหน้าเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย

2 มิ.ย.64 เวลา 23.26 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรีเผย โครงการคนละครึ่ง เป็นการขับเคลื่อนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ค้าปลีก ตราบใดที่มีงบประมาณเพียงพอรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งเดินหน้าประชาชนผู้มีรายได้น้อย

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการกู้เงินของรัฐบาล ยังอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ซึ่งไม่เกินร้อยละ 60 ของ GDP ซึ่งหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นก็เป็นไปตาม GDP และการลงทุนที่นำมาใช้จ่ายในการดูแลประชาชน สำหรับเงินกู้ตั้งแต่ปี 2557 – 2564 รัฐบาลได้ชำระหนี้ไปแล้ว 2.53 ล้านล้านบาท โดยการกู้เงินตาม พ.ร.ก. เงินกู้ฯ ได้มีการเบิกจ่ายไปจนเกือบครบแล้ว เพื่อนำไปดูแลประชาชนและนำไปใช้ในด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะการป้องกัน รักษา คัดกรอง รวมถึงการจัดหาวัคซีน ขณะเดียวกัน เงินกู้ต่างๆ จากปี 2559 จนถึงปัจจุบันรัฐบาลได้มีการลงทุนทางโครสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและสังคม กว่า 2.11 ล้านล้านบาท จำนวน 162 โครงการ ร้อยละ 70 เป็นการกู้เพื่อการลงทุนในวงเงินงบประมาณ 1.15 ล้านล้านบาท อาทิ ด้านคมนาคม การนำสายไฟฟ้าลงดิน การทำความสะอาดคูคลอง สร้างที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อย เพิ่มแหล่งน้ำทางการเกษตร การป้องกันอุทกภัย เป็นต้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าสถานะทางการเงินของประเทศไทยยังได้รับประเมินอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินการคลังเท่าเดิมเมื่อเทียบกับก่อนวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการโอนเงินกู้จากแผนงานฟื้นฟูฯ ไปยังแผนงานเยียวยาฯ เนื่องจากรัฐบาลต้องดูแลประชาชนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ อาทิ การลดค่าน้ำประปา-ไฟฟ้า โครงการเราชนะ โดยครอบคลุมประชาขนกลุ่มเป้าหมาย 33 ล้านคน และยังทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังชี้แจงถึงกรณีประเทศไทยไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX เนื่องจากประเทศไทยไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะเป็นประเทศที่มีฐานะปานกลางและอาจต้องเสียเงินซื้อวัคซีนในราคาที่แพงกว่า

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังชี้แจงกรณีการออกคำสั่งเหมืองทองอัครา ครอบคลุมไปถึงกิจการเหมืองแร่ทุกประเภทที่จะต้องดำเนินการตามกติกา ซึ่งหลายบริษัทเข้ามาชี้แจงแก้ไขเพื่อให้ดำเนินการต่อได้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างอนุญาโตตุลาการ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน

Advertising

Related Articles

Leave a Comment

Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00