⇒ นายกฯหญิงอังกฤษง่อนแง่นหนัก รมต.คลังคนใหม่โยนทิ้งแผนเศรษฐกิจ
ไฮไลท์การเมือง : 18 ตุลาคม 2565 รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษสั่งยกเลิกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นชนวนแรงกดดันผู้นำอังกฤษให้ต้องถอดเจ้ากระทรวงคลังคนก่อนเพื่อลดกระแสบีบตนเองให้ออกจากตำแหน่ง
เจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ ประกาศในวันจันทร์ว่า ตนยกเลิกแผนลดภาษีของนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ “เกือบทั้งหมด” รวมทั้งนโยบายด้านพลังงานและคำมั่นที่ว่า จะไม่มีการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มเติมอีก
แต่ขณะที่ การพลิกกลับแผนนโยบายต่างๆของนายกฯหญิงอังกฤษช่วยทำให้เกิดความสงบในตลาดการเงินได้ ทั้งยังช่วยฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลไปพร้อมๆกัน สถานการณ์นี้กลับยิ่งเป็นเหมือนการบ่อนทำลายอำนาจของนายกฯ ทรัสส์ และเติมเชื้อเพลิงให้กับกระแสเรียกร้องให้เธอก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมยิ่งกว่าเดิม
ทรัสส์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลได้เพียง 6 สัปดาห์ หลังได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกในพรรคอนุรักษ์นิยม ให้รับหน้าที่แทนอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่ถูกกดดันให้ลาออกเมื่อเดือนกรกฏาคม จากกรณีข่าวฉาวด้านจริยธรรม
โฆษกของนายกฯ ทรัสส์ กล่าวว่า ผู้นำอังกฤษและรมต.ฮันท์ ร่วมกันตกลงสรุปการเปลี่ยนแปลงแผนเศรษฐกิจ แต่ รมว.คลังคนใหม่ บอกกับสมาชิกสภาสามัญชนที่สังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมว่า นายกฯ ทรัสส์ “สนับสนุนการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอันแสนยากเข็ญนี้อย่างเต็มตัว” ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่า รมต.ฮันท์ นั้นเป็นผู้คิดและนำเสนอนโยบายทั้งหมดด้วยตนเอง
รมต.ฮันท์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้ากระทรวงการคลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังนายกฯหญิงของอังกฤษปลดอดีตรัฐมนตรีคลัง ควาซี ควอร์เทง ออกจากตำแหน่ง หลังทำหน้าที่นี้มาได้เพียงไม่ถึง 6 สัปดาห์ ด้วยจุดประสงค์ที่จะพยายามฟื้นฟูความน่าเชื่อถือด้านนโยบายการคลังของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเสียหายหนัก จากความพยายามของทั้งสองคนในการเร่งผลักดันแผนลดภาษีโดยไม่ได้อธิบายรายละเอียดใดๆ
ทรัสส์ และ ควอร์เทง ร่วมกันประกาศแผนลดภาษีให้ได้เป้า 45,000 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 23 กันยายน ซึ่งคำประกาศนั้นส่งผลให้ตลาดหุ้นระส่ำหนักทันที จนธนาคารกลางของอังกฤษต้องออกมาแทรกแซงเพื่อไม่ให้กองทุนบำนาญของประเทศได้รับผลกระทบไปด้วย
และในการประกาศปรับเปลี่ยนแผนงานทางเศรษฐกิจในวันจันทร์ รมต.ฮันท์ ระบุว่าแผนของตนจะช่วยประหยัดเงินให้รัฐบาลปีละ 32,000 ล้านปอนด์ แต่ชี้ด้วยว่า อย่างไรเสีย จะต้องมีการปรับลดค่าใช้จ่ายในอนาคตอันใกล้นี้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม พอล จอห์นสัน ผู้อำนวยการจาก Institute for Fiscal Studies ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองที่ตั้งอยู่ในอังกฤษ ให้ความเห็นว่า คำประกาศของรัฐมนตรีคลังนี้ยังไม่เพียงพอ “ที่จะลบล้างความเสียหายที่เกิดจากความเสียหายวุ่นวายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นการก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องที่ใหญ่ น่ายินดี และชัดเจนเพียงพอ” (ที่มา: รอยเตอร์)
Advertisement