⇒ ครม.ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 5 บาทออกไปอีก 2 เดือนถึง 20 ม.ค.66
ไฮไลท์การเมือง : 15 พฤศจิกายน 2565 ครม. เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนและภาคธุรกิจ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ถึง 20 มกราคม 2566 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังคงผันผวนทั่วโลก
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตดำเนินมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน จากสถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กรมสรรพสามิตตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในประเด็นดังกล่าว จึงได้มีการขยายมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2565 แต่ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมัน ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศยังสูงอยู่จนกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและภาคธุรกิจ
กรมสรรพสามิตจึงเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้มาตรการทางภาษีไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยไม่ให้ราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นจนเกิดผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจภาพรวม ด้วยน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนของการผลิตและการขนส่งของทุกภาคอุตสาหกรรม กรมสรรพสามิตจึงได้ทำการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลออกไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2566
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนรวมถึงส่งเสริมให้กลไกทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมสามารถเดินหน้าต่อได้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิตในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
Advertisement