Home เศรษฐกิจ กกร. เร่งรัดรัฐบาลลดค่าไฟ ราคาน้ำมัน ต้นเหตุค่าครองชีพแพง เร่งเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว

กกร. เร่งรัดรัฐบาลลดค่าไฟ ราคาน้ำมัน ต้นเหตุค่าครองชีพแพง เร่งเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว

ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วานนี้ (7 ก.ย.) กกร. ขยับจีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 2.5-3 อ้อนรัฐบาลชุดใหม่ เพิ่มกำลังซื้อ เร่งรัดลดค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน ต้นเหตุค่าครองชีพแพง เร่งเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่าช่วงไฮซีซันกับจีน ดันยอดเดินทางเข้าไทย 30 ล้านคน หอการค้าฯ เตรียมหารือกระทรวงแรงงานวันนี้

by Editor staff

ไฮไลท์การเมือง : 8 กันยายน 2566 นายผยง​ ศรีวณิช ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้และกำลังซื้อที่หดตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจีดีพีของจีนในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 5 เท่านั้น และมีแนวโน้มจะลดลงในปีหน้าเศรษฐกิจโลกจึงได้รับแรงกดดัน จึงส่งผลให้การส่งออกของไทยยังมีอุปสรรคในการฟื้นตัว กกร. จึงปรับคาดการณ์จีดีพีไทยในปีนี้ขยายตัวร้อยละ 2.5 -3.0 ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมร้อยละ 3-3.5 เนื่องจากเศรษฐกิจในไตรมาส 2 เติบโตเพียงร้อยละ 1.8 ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 3.1 อย่างมาก ภาคอุตสาหกรรมอ่อนแรงมาก ตามทิศทางเดียวกับมูลค่าการส่งออกติดลบต่อเนื่องมา 10 เดือน การใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวต่อเนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า

นอกจากนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาดเนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปกติ อยู่ร้อยละ 13 และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทยในการเที่ยวในประเทศต่ำกว่าปกติราวร้อยละ 33 รัฐควรมีมาตรการเพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังสามารถเติบโตได้ร้อยละ 3 การเร่งรัดมาตรการด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ประกาศไว้จึงมีความจำเป็น ได้แก่ การลดภาระรายจ่ายค่าไฟและราคาน้ำมัน การผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน เดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกไปยังตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ เร่งจัดทำมาตรการเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับ SMEs และครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้ได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน

ที่ประชุม กกร. มีความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกของไทยชะลอตัว ประกอบกับสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานทะลักเข้ามาแข่งขันด้านราคาในตลาดไทย ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เบื้องต้นมี 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่มียอดขายลดลง และหากไม่มีมาตรการกำกับดูแลสินค้านำเข้าดังกล่าวผลกระทบอาจจะขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ ดังนั้น กกร. จึงเสนอขอให้ภาครัฐเข้มงวดในการตรวจจับสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐานโดยผ่านกลไกจากทั้ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมศุลกากร เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ

ด้านการท่องเที่ยวยังเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่เหลือ ที่ประชุม กกร. มองว่า การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน มีจำนวนต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงเสนอให้มีการเร่งรัดและออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมาตรการฟรีวีช่าโดยเร็ว รวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศอย่างปลอดภัย ที่ประชุม กกร. มีความเห็นว่าด้วยดอกเบี้ยในปัจจุบันปรับขึ้นมาต่อเนื่องและอยู่ที่ระดับ 2.25% ซึ่งเป็นระดับสมดุลแล้ว เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องทำให้แรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ และสถาบันการเงินได้ชะลอการส่งผ่านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ เตรียมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับการดูแลภาคแรงงาน ทั้งเรื่องค่าแรงงานขั้นต่ำ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานไทย การส่งเสริมแรงงานต่างด้าว เพื่อดูแลภาคแรงงานให้มีคุณภาพ

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนรอรับฟังการชี้แจงนโยบายของรัฐบาลต่อสภา เพื่อมาจัดทำข้อเสนอ เมื่อรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ลดค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ จะช่วยบรรเทาต้นเหตุปัญหา และหาช่องทางเติมทุนให้เอสเอ็มอี เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะหนึ่งแล้ว จากนั้นจึงปล่อยให้คณะกรรมการไตรภาคีระดับจังหวัด พิจารณาการปรับเพิ่มค่าแรงให้เหมาะสม

Advertisement

Related Articles

Leave a Comment

Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00