ไฮไลท์การเมือง : 11 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา -นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาล เดินหน้าพัฒนาประเทศ 3 ระยะ เป้าหมายแรกกระตุ้น ศก.ด้วยเงินดิจิตอล วอลเล็ต พักหนี้เกษตรกร ลดค่าครองชีพ พร้อมลดขั้นตอนทำวีซ่ารับ นทท. ส่วนระยะยาว ลดจำนวนนายพล แก้ รธน. ขอสภาฯ เชื่อมั่น ยืนยันทุ่มเทสรรพกำลังแก้ปัญหา ปท.ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง
การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีนายวันมูฮะมัด นอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. โดยประธานรัฐสภา ได้ชี้แจงว่า การอภิปรายจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย.2566 ใช้เวลาทั้งหมด 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) 5 ชั่วโมง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 5 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล 5 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง สำหรับคำแถลงนโยบายของ “ครม.เศรษฐา” โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นเอกสาร 43 หน้า แบ่งเป็นคำแถลงนโยบาย 14 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นภาคผนวก ซึ่งสาระสำคัญของนโยบายที่นำเสนอกรอบการทำงานของรัฐบาลแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเริ่มแถลงนโยบายว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจสังคมและการเมือง และยังถูกซ้ำเติมด้วยโควิด-19 ประกอบกับปัญหาสังคมการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ฝังรากลึกและยังไม่ได้แก้ไขอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจไทยขณะนี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลก และประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ก่อปัญหาความยากจนความเหลื่อมล้ำ ขาดความพร้อมที่จะเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยกำหนดไว้ 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระยะสั้น รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นค่าใช้จ่ายด้วยนโยบาย การเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิตอล Wallet จะเดินหน้านโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งในภาคเกษตร ธุรกิจ ภาคประชาชนด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไข ช่วยประคองภาระหนี้และต้นทุนทางการเงินสำหรับประชาชน ครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ภายใต้ปรัชญาที่ไม่ขัดต่อวินัยการเงินการคลัง และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม นโยบายเร่งด่วนถัดมาคือการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ทั้งค่าไฟค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในระดับที่เหมาะสม จะผลักดันนโยบายที่กระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นกุญแจดอกแรกที่จะสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างงานให้ประชาชนจำนวนมากพร้อมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวด้วยการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการขอวีซ่า และสุดท้ายจะมุ่งแก้ปัญหาความเห็นต่าง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลมีแนวทางสร้างรายได้ ทั้งการเปิดประตูสู่การค้าตลาดใหม่ ๆ ทั้งในกลุ่มสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง สร้างมูลค่าเพิ่มทางสินค้า เพื่อดึงดูดการลงทุน รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งในประเทศทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง และอากาศ พัฒนาเศรษฐกิจการค้าที่ถูกกฎหมายตามแนวชายแดนเพื่อสร้างเงินสร้างงาน สร้างรายได้ อีกทั้งจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรทั้งประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในระยะเวลา 4 ปี ช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชน โดยการยกเลิกและปรับปรุงกฎหมายที่ไม่จำเป็น เช่น ปลดล็อกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสุราพื้นบ้าน
“เราจะบริหารในรูปแบบของการกระจายอำนาจ คือผู้ว่าฯ ceo ในการสร้างประสิทธิภาพในการบริหารงานในแต่ละจังหวัด ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย โดยรัฐบาลจะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใส สกัดช่องโหว่การทุจริต นอกจากนี้จะมีการเลือกตัวแทนของผู้บริหารเป็นตัวแทนการพัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิดเมืองนอน รัฐบาลนี้จะมีนโยบายสนับสนุนการสร้างซอฟท์พาวเวอร์ ส่งเสริมหนึ่งครอบครัวหนึ่งทักษะซอฟท์พาวเวอร์ ส่วนเรื่องของการศึกษา รัฐบาลจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษาให้เป็นสังคมแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องกระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของครูทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะร่วมพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศโดยจะเปลี่ยนรูปแบบการเกณท์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ปรับปรุงการฝึก รด.ให้เป็นแบบสร้างสรรค์ ลดกำลังนายพลทหารชั้นสัญญาบัตรระดับสูง และกำหนดอัตรากำลังในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจในปัจจุบัน ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม และสุดท้ายเราจะนำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะเพื่อการเกษตร
“ส่วนด้านความปลอดภัย รัฐบาลจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ปราบปรามผู้มีอิทธิพลยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยโดยยึดหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และหลังจากการบำบัดพัฒนาพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงานส่วนผู้ผลิต ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้าต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม เราจะใช้มาตรการอย่างจริงจังยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด นอกจากนี้รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องระบบสาธารณสุขเราจะรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เราจะยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยบริการพื้นฐานใกล้บ้าน ประชาชนไม่ต้องลำบากเดินทางไกล อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วย “สวัสดิการโดยรัฐ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากมองอนาคต 4 ปีข้างหน้าจะเป็น 4 ปีที่รัฐบาลจะวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ โดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ขณะที่การบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายรัฐบาลการรักษากรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ โดยพิจารณาใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ทั้งในส่วนของเงินกู้และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ รวมถึงพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อลดภาระการลงทุนจากงบประมาณแผ่นดินและการกู้เงิน รัฐบาลจะหาเงินจากการจัดเก็บภาษี ควบคู่ไปกับการเร่งส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว รัฐบาลจะหาเงินจากการจัดเก็บภาษี ควบคู่ไปกับการเร่งส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว
“รัฐบาลขอให้ความเชื่อมั่นแก่รัฐสภาและประชาชนไทยว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และประเทศเป็นที่ตั้ง รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเทสรรพกำลังในการที่จะดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน และการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อมเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของผมและรัฐบาลในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเรานับจากนี้เป็นต้นไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
Advertisement