ไฮไลท์การเมือง : 15 พฤศจิกายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่เคยให้ความเห็นเสนอให้มีการสอนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนให้มากขึ้น ว่า ถึงแม้จะมีการสอนอยู่แล้วในโรงเรียน แต่การสอนนั้น อย่าไปสอนให้เด็กท่องจำ ต้องใส่ค่านิยมเข้าไปเหมือนสมัยก่อน ให้เด็กมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย พูดถึงวีรกรรมอันกล้าหาญ ของบรรพบุรุษของเรา ให้เกิดความสำนึกในการเป็นประชาชนคนไทย
“เราต้องเน้นสอนให้มีการทัศนศึกษา พาไปชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ให้เด็กได้มีโอกาสซักถาม สมรภูมินี้เป็นยังไง เหตุการณ์นี้จริงหรือเปล่า ดอนเจดีย์ เป็นสถานที่ทำยุทธหัตถีจริงหรือเปล่า แล้วทำไมมีหลายที่อ้างว่าเป็นสถานที่ทำยุทธหัตถี พวกเราก็จะได้มีการพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งบอกว่าวิชาเหล่านี้ไม่เคยหายไปจากหลักสูตร เพียงแต่ว่าความมุ่งเน้น ไปเน้นในวิชาแอดมิชชั่นมากกว่า เราพยายามทำให้เกิดประโยชน์ ใช้ประโยชน์จากการเรียนประวัติศาสตร์ เพราะต่อไปเราจะมีนโยบาย เช่น การรับราชการ ต้องมีการสอบให้คนทราบถึงประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง เอกลักษณ์ของความเป็นไทย
“ถ้าสัมภาษณ์มา ร้องเพลงชาติไทยยังไม่ครบแบบนี้ก็ไม่ใช่ อีกหน่อยเราก็ต้องทำให้วิถีชีวิตต่างๆ สอดคล้องกับการศึกษาด้วย จากการที่เรียนประวัติศาสตร์มา มีปฏิวัติมากี่ครั้ง เลือกตั้งมีมากี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี ชื่ออะไรบ้าง หลายๆ เรื่อง เดี๋ยวทางรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ละคร พรหมลิขิต ก็ถือว่าสะท้อนประวัติศาสตร์ได้ดี นาย อนุทิน ตอบว่า อะไรแบบนั้น จากการดูแล้วมีความภาคภูมิใจหรือไม่ ถ้าไม่ได้ดูตอนบทโรแมนติก เวลาพูดถึงบรรพบุรุษของเรา พระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้น ขุนนางนักรบสมัยนั้น ทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านเมือง ทุกอย่างมีคุณค่าทั้งนั้น ทำให้เราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
Advertisement