ไฮไลท์การเมือง : 19 ตุลาคม 2567 Krungthai CIO ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลายตลาดทำสถิติสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ซึ่งตามสถิติในเดือนกันยายนมีความผันผวนมากที่สุดของปี แนะสะสมหุ้นคุณภาพดีของสหรัฐฯ ราคาน่าสนใจ สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในสภาวะตลาดผันผวน
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนประจำเดือนตุลาคม 2567 โดยยังคงมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลง แต่ไม่ถดถอย และเดินหน้าไปสู่ภาวะ Soft Landing โดยเงินเฟ้อทั่วโลกมีการทยอยปรับตัวลง กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลก จะเริ่มวัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อหยุดการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ นอกจากนี้ จีนยังประกาศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ที่มีทั้งนโยบายการเงินและการคลัง มองว่าจะช่วยหยุดการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ ทำให้เศรษฐกิจจีนในปีนี้เติบโตได้ตามเป้า แต่ในภาคอสังหาฯ ที่มีปัญหามาอย่างยาวนานนั้น อาจจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นมากกว่าปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้รับรู้ข่าวดีต่างๆ ไปบ้างแล้ว โดยปัจจุบันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ที่ระดับ Forward P/E 19.15 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 17.0 เท่า จึงมองว่า Upside การลงทุนเริ่มจำกัด ตลาดจะตัวแกว่งในกรอบ นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ค่อนข้างตึงตัว หากกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัวลง อาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และตลาดอาจปรับตัวลงแรง เช่นเดียวกับช่วงต้นเดือนกันยายน ดังนั้น จึงแนะปรับพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวัง เพื่อรับผลตอบแทนที่ยั่งยืนในทุกสภาวะตลาด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในสภาวะที่ตลาดโดยรวมอาจจะยังคงตึงตัว มองว่ายังมีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นไปกระจุกตัวของหุ้นขนาดใหญ่ไม่กี่ตัว สร้างแนวโน้มการทำกำไรในหุ้นตัวอื่นๆ ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาที่ไม่ตึงตัวมากเกินไป ทำให้มองว่าการลงทุนที่น่าสนใจช่วงนี้ ควรเข้าสะสมหุ้น Laggard ที่คุณภาพดี เช่น หุ้นเทคโนโลยี ที่ไม่ใช่เทคฯ ขนาดใหญ่ โดยมีกระแสเงินสดและการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มองว่าตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Market ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว โดยตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรงช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้การฟื้นตัวยังมี Upside อยู่ ในขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับไม่สูง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย ที่มองว่ายังมี Upside ถึงแม้จะปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ดี และเริ่มมีสัญญาณเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยอีกรอบ หลังจากไหลออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า
Advertisement