⇒ เจ.พี.มอร์แกน ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนในหุ้นไทย ผลจากท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น
ไฮไลท์การเมือง : 4 พฤษภาคม 2565 วานนี้ (3 พฤษภาคม 65) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิเคราะห์จากบริษัท เจ.พี.มอร์แกน ประกาศปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนในหุ้นไทยลงในวันจันทร์ จากกรณีการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นไปอย่างล่าช้า อันเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโคโรนาไวรัสในประเทศจีน
เจ.พี.มอร์แกน ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยนั้นเผชิญแรงต้านมากมายในช่วงที่ผ่านมา ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงทั่วโลก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ จนทำให้ต้องปรับน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทยลงจาก overweight (เพิ่มน้ำหนักการลงทุน) เป็น neutral (คงน้ำหนักการลงทุน)
ข้อมูลจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกระบุว่า ในปี ค.ศ. 2019 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำเงินให้กับเศรษฐกิจไทยราว 380,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11.8% ของจีดีพีของประเทศ และในปี ค.ศ. 2019 หรือก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวน 40 ล้านคน โดย 1 ใน 4 นั้นมาจากประเทศจีน ขณะที่ ในปีนี้ ทางการไทยคาดว่า จะมีนักเดินทางต่างชาติเข้ามาในประเทศราว 5-10 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากมาเลเซียและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในเดือนเมษายน หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด แต่เศรษฐกิจของประเทศยังคงถูกกดดันจากภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูง
ที่มา: รอยเตอร์
Advertisement
