⇒ “ประยุทธ์” ย้ำในเวทีเอสแคป ไทยยึด 3 แนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ก้าวสู่ยุค “Next Normal”
ไฮไลท์การเมือง : วันนี้ (23 พฤษภาคม 2565) เวลาประมาณ 11.01 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) สมัยที่ 78 ผ่านการบันทึกเทปวีดิทัศน์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยินดีที่ได้เข้าร่วมการประชุมเอสแคปในวันนี้ เป็นโอกาสพิเศษที่เอสแคปฉลองครบรอบ 75 ปีของการก่อตั้ง โดยในวันนี้ โลกและภูมิภาคกำลังเผชิญความท้าทายที่มีความหลากหลายและมีมิติที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น รวมถึงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ทั้งภายในและระหว่างประเทศเด่นชัดขึ้น และการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อยู่ในภาวะชะงักงัน นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ประเทศไทยยึดมั่นและเชื่อมั่นในระบบพหุภาคี สหประชาชาติ และเอสแคปมาตลอด 75 ปีของการเป็นสมาชิกสหประชาชาติ และการดำเนินงานของสหประชาชาติและเอสแคปยิ่งทวีความสำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตไปด้วยกัน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเสนอ 3 แนวทางเพื่อก้าวข้ามการฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19 ไปสู่การพัฒนาในภูมิภาคอย่างมั่นคงยั่งยืนในยุค “Next Normal”
หนึ่ง การเติบโตอย่างสมดุล (balanced growth) พลิกโฉมการพัฒนาไปสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สอง การเติบโตอย่างมีภูมิต้านทาน (resilient growth) สร้างความเข้มแข็งในการรับมือต่อปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง
สาม การเติบโตอย่างรอบด้านและครอบคลุม (comprehensive and inclusive growth) ส่งเสริมความเชื่อมโยงในมิติต่างๆอย่างทั่วถึง การอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและโลก โดยโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริม MSMEs และสตาร์ทอัพ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในยุค 4IR
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ด้วย การพัฒนาทุนมนุษย์ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน รวมทั้งการพัฒนาคนทุกช่วงวัยผ่านการศึกษาทุกรูปแบบ และการเสริมสร้างทักษะต่างๆ เป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตไปด้วยกัน พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยยึดแนวทางทั้งสามประการในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและก้าวสู่ยุค “Next Normal” และมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจในการพัฒนา และนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาเป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย พร้อมมุ่งสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังวิกฤตโควิด-19 ที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุล ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปีนี้ด้วย ซึ่งไทยมี EEC ที่ส่งเสริมและรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดความหลากหลาย ความเชื่อมโยง และความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขที่จำเป็นและขยายให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มในสังคมรวมถึงแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งช่วยให้ไทยรับมือกับโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงพร้อมร่วมมือเพิ่มความเข้มแข็งให้สาธารณสุขโลก
Advertisement