⇒เหล่าทัพเตรียมพร้อมสนับสนุนแก้ปัญหาไฟป่า-PM 2.5
ไฮไลท์การเมือง : 22 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กำชับทุกเหล่าทัพพร้อมสนับสนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ แก้ปัญหาภัยพิบัติ-ไฟป่า-ฝุ่น PM 2.5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมที่หอประชุมกองทัพเรือ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมอบนโยบายให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจ พร้อมรายงานผลปฏิบัติงานที่สำคัญ อาทิ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงนโยบายการฝึกของกองทัพไทย พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งมีแผนงานการฝึก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน
ด้านกองทัพบกเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกให้มีความพร้อมรบ (Combat Readiness) มีขีดความสามารถในการรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ และสามารถปฏิบัติการร่วมกับทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการฝึกที่สำคัญประกอบด้วย การฝึกตามวงรอบการฝึกประจำปีของกองทัพบก ซึ่งเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานให้กับกำลังพล เพื่อให้เกิดทักษะความชํานาญทั้งในระดับบุคคล และระดับหน่วย การฝึกร่วม ซึ่งเป็นการฝึกร่วมกับเหล่าทัพ และส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และความชำนาญในการปฏิบัติงาน รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในหลักนิยม ยุทธวิธี ขีดความสามารถ และความทันสมัยของยุทโธปกรณ์ในแต่ละกองทัพมิตรประเทศทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี
ส่วนกองทัพเรือได้รายงานผลการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มกราคม 2566 ในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้เข้ารับการฝึกฯ จากกองทัพเรือ หน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ มวลชน และนักท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ รวมทั้งสิ้น 1,320 คน ผลจากการฝึกฯในครั้งนี้ได้รับทราบถึงขีดความสามารถของกำลังทางเรือในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ทางทะเลและเกาะแก่ง อีกทั้งยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในขีดความสามารถของกันและกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติการร่วมกันในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงเกิดความมั่นใจในขีดความสามารถและความพร้อมของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับกองทัพอากาศได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือร่วมกับศูนย์อำนวยการร่วมในพื้นที่ โดยกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ไฟป่าและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติภารกิจในการบินกระจายเสียงในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง การบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า การบินสร้างแนวกันไฟเพื่อควบคุมไฟป่า การบินลำเลียงทางอากาศ และส่งกลับสายแพทย์ และการบินค้นหาและช่วยชีวิต
นอกจากนี้กองทัพอากาศยังมีโครงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและสลายหมอกควัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาเครื่องผสมสารยับยั้งไฟป่า สารยับยั้งไฟป่าสูตร ทอ.๑ ถุงบรรจุสารยับยั้งไฟป่าในกล่องอุปกรณ์ควบคุมไฟป่า บรรจุภัณฑ์ยับยั้งไฟป่าแบบติดตั้งอุปกรณ์หน่วงเวลา สถานีระบบควบคุมภาคพื้น อากาศยานไร้คนขับโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อากาศยานไร้คนขับแบบ M Solar X การทำฝนหลวงเมฆอุ่น และพลุสารฝนหลวง เป็นต้น
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกอบรมให้แก่กำลังพล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ได้แก่ การฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ภายในหน่วย การทำหน้าที่เป็นวิทยากร ครูฝึก ถ่ายทอดองค์ความรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่หน่วยงานต่างๆ การส่งกำลังพลฝึกร่วมกับหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เหล่าทัพ และหน่วยงานพลเรือน เช่น สถานศึกษา สาธารณสุข หน่วยงานปกครอง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และการติดต่อประสานงานเป็นขั้นตอนเมื่อเกิดเหตุร้าย การส่งกำลังพลเข้าแข่งขันหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SWAT CHALLENGE) ทั้งในประเทศ และนานาชาติ การออกแบบการฝึกยิงปืนประเภทต่างๆ ให้กับข้าราชการตำรวจทั่วประเทศเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการตอบโต้ภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป การส่งกำลังพลเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรในต่างประเทศกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษชั้นนำระดับโลก เช่น หน่วย RAID ฝรั่งเศส และ Green Beret สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลในการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้ในการฝึกหลักสูตรต่างๆ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้สั่งการให้เหล่าทัพติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง และปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงเฝ้าระวังเหตุการณ์ไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน พร้อมทั้งบูรณาการและประสานการปฏิบัติระหว่างเหล่าทัพและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 โดยให้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามที่ได้รับการร้องขอได้ทันที
Advertisement