ไฮไลท์การเมือง : 27 มิถุนายน 2566 ครม.รับทราบโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” เสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่งมอบให้ กทม.ดูแลต่อ ให้เป็นสวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบการดำเนินโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิตติ” ระยะที่ 2-3 ซึ่งกรมธนารักษ์ได้นำส่งเงินคงเหลือจากการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” จำนวน 3,250,281.53 บาท คืนกระทรวงการคลัง เป็นรายได้แผ่นดินแล้ว ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อ 27 พฤษภาคม 2540 อนุมัติให้ กระทรวงการคลังใช้เงินจากรายได้แผ่นดินที่โรงงานยาสูบต้องนำส่งคลัง เพื่อเป็นค่าก่อสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การจัดสร้างสวนน้ำ และส่วนที่ 2 การจัดสร้างสวนป่า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อการสร้างสวนสาธารณะทั้ง 2 ส่วนเสร็จและมีเงินคงเหลือ ให้กรมธนารักษ์นำส่งคืนกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป และต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติ 8 มีนาคม 2559 เห็นชอบในหลักการโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” วงเงินจัดสร้าง 950 ล้านบาท แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ โดยสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 1 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ระยะที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2564 และระยะที่ 3 เมื่อเดือนธันวาคม 2564 โดยมีพิธีเปิดสวนป่า ระยะที่ 2 และ 3 ในสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565
“ปัจจุบันรัฐบาลส่งมอบพื้นที่สวนป่าดังกล่าวให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลแล้ว ซึ่งสวนป่า “เบญจกิตติ” เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพมหานคร และเป็นสวนสาธารณะ สวนสุขภาพ และออกกำลังกาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สร้างความน่าอยู่ให้กับกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของโครงการจัดสร้างสวนป่าเบญจกิตติตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน” นายอนุชา กล่าว
Advertisement