ไฮไลท์การเมือง : 29 มิถุนายน 2566 “ชลน่าน” ย้ำใช้สูตร 14+1 เจรจาปม ปธ.สภาฯ กับก้าวไกล ลั่นไม่แข่ง ไม่หักหลังประชาชน แต่ “ขอ” แม้อยากออก แต่ถูก 25 ล้านเสียงมัดรวม ไม่มีสิทธิปฏิเสธ เชื่อต้องตกลงกันได้ ป้องกันฟรีโหวต
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และเห็นชัดเจนว่าไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรค ในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปรับสูตรปมประธานสภาฯ 15+1 และ 13+1 ว่าตนก็งงกับข่าวนี้ว่าออกมาได้อย่างไร เราไม่เคยได้ยิน เราไม่เคยได้พูด จึงยังยืนยันจุดเริ่มต้นคือ 14+1 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันให้ยึดหลักการนี้เป็นตัวประกอบในการเจรจา ไม่ใช่สูตรที่ตายตัว ขอย้ำอีกครั้งว่า 13+1 หรือ 15+1 ไม่รู้ว่าเป็นข่าวมาจากที่ใด แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอสูตรนี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นสูตรนี้ ที่ยังไม่ได้คุยกัน เพราะเคยเสนอกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบที่เป็นทางการชัดเจน จึงคิดว่าต้องเริ่มต้นจากสูตรที่ค้างไว้ ส่วนจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การเจรจา
นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เข้าใจตัวเราเองดี เพราะฉะนั้นหลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา พร้อมระบุว่าเราใช้คำว่าข้อเสนอ เพื่อให้พรรคอันดับหนึ่งพิจารณา ซึ่ง 14+1 ก็คือข้อเสนอ นั่นหมายความว่าเราเคารพสิทธิท่านตลอดเวลา เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ ฉะนั้นวงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี
“เราเข้าใจว่าโดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่งก็ควรได้รับสิทธิเป็นประธาน เราก็ถือสิทธินั้น เราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้หรือไม่ ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าพรรคก้าวไกลอันดับ 1 ยืนยันไม่ให้เก้าอี้ประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าอยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริง 14+1 เราเสนอบนพื้นฐานคะแนนไล่เลี่ยกัน และเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลแจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ พร้อมให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์การชิงเก้าอี้ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังคงอยู่ในการพูดคุยและพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคล เพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกัน และเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจนจะยังไม่เสนออะไร เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุน ขณะเดียวกันยังแสดงความมั่นใจถึงบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ
ส่วนที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุล และให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คือให้หัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน มีเหตุผล เพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า นั่นคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา
สำหรับการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะคุยกันลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรค ในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ เบื้องต้นทราบข้อมูลมาว่าจะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค. และยังคงมั่นใจว่าข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคได้
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ว่าสิทธิของพรรคก้าวไกลในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ทำได้โดยชอบ เราในฐานะพรรคร่วม ก็แถลงการณ์ให้สิทธิว่าก้าวไกลจะต้องเป็นแกนนำ ในทุกประเด็นที่จะเป็นข้อเจรจาจัดตั้งรัฐบาล และเราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลย โดยความไม่เข้าใจ เป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที
“เราบอกว่าเราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่าคุณจะให้เราหรือเปล่า” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่าหากเขายืนกรานไม่ให้จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง เราจะพิจารณาอย่างไรในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน
เมื่อถามอีกว่า คำว่าพิจารณา ในการทำงานไม่ได้แปลว่าไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้
“เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป และเรามีสิทธิโดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน เสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธจริงๆ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม ซึ่งหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค. ก็มีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว วันที่ 4 ก.ค. เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไปก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ
Advertisement