ไฮไลท์การเมือง : 6 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญวิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 โดยมีวาระเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นัดหมายสมาชิกเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน ทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งแกนนำพรรค สส. อดีต สส. และสาขาพรรค ที่เป็นองค์ประชุม โดยแต่ละคนได้กล่าวทักทายและพูดคุยกันอย่างปกติ และยังเชื่อว่าการประชุมน่าจะดำเนินไปได้อย่างปกติ
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดเริ่มประชุม น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรคได้แจ้งว่าขณะนี้มีองค์ประชุม 210 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะตามข้อบังคับพรรคจะต้องมีองค์ประชุม 250 คนขึ้นไป จึงขอให้รอสมาชิกที่กำลังเดินทางมา จากนั้น นายเฉลิมชัย มีสีหน้าเคร่งเครียด และเดินเข้าออกห้องประชุมตลอดเวลา พร้อมกับแจ้งกับสื่อมวลชนว่าอย่าไปไหน เพราะจะมีแถลงข่าวใหญ่เร็วๆนี้
ต่อมาเวลา 10.36 น. น.ต.สุธรรม ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเราได้รอสมาชิกมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว แต่มีสมาชิกมาร่วมประชุม 223 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้ไปหารือกับรักษาการกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาวันเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านด้วย ขณะที่สมาชิกส่วนหนึ่งได้แยกย้ายเดินทางกลับ บางส่วนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมล่มกันอย่างเคร่งเครียด
จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที โดยนายเฉลิมชัย ระบุว่า ขอประณามพฤติกรรมซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน คำประกาศอุดมการณ์ของพรรคเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 ข้อที่ 1 คือพรรคจะดำเนินการทางการเมืองโดยวิถีธรรมอันบริสุทธิ์แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์วันนี้สร้างความเสียหายให้กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นตนต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเป็นครั้งแรกว่าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการไม่ครบองค์ประชุม ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชุมใหญ่ของพรรคทั้ง 2 ครั้งได้ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.ค.66 และครั้งนี้ 6 ส.ค. ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เกิดโดยพฤติกรรมของกลุ่มคนบางกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งตนต้องขอโทษสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ที่มีการให้องค์ประชุมออกจากห้องประชุม มีการให้องค์ประชุมไม่ลงชื่อในการประชุม มีการให้องค์ประชุมไปเที่ยว สปป ลาว เพื่อจะไม่ต้องมาร่วมประชุม ตนถือว่าพฤติกรรมเหล่านี้ เป็นพฤติกรรมที่เลวทรามมากมันไม่ควรจะเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมือง จึงอยากจะฝากอีกครั้งให้ช่วยปลุกจิตสำนึกของคนในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เชื่อว่าเขารู้ว่าเขากำลังทำพฤติกรรมอะไรกันอยู่ ขอให้มีจิตสำนึกรักพรรคประชาธิปัตย์สักนิด ตนเชื่อว่าถ้าจิตสำนึกกลับมาพรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปข้างหน้าได้ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีระเบียบมีข้อบังคับ เราไม่สามารถทำอะไรโดยลำพัง ทำอะไรโดยความคิดส่วนตัวได้ พรรคประชาธิปัตย์มีกฎข้อบังคับแต่วันนี้ทุกคนฉีกข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์เสียเอง ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมถอย ตนในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วย สส. และอดีตกรรมการบริหาร รวมถึงสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านี้ วันนี้จึงขอแถลงประณามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้ทุกกลุ่มที่เล่นเกมการเมืองเพื่อหวังตอบสนองความต้องการของใครบางคน ถ้าคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของก็ต้องทำให้เหมือนกับคำพูดของท่าน
นายเฉลิมชัย ยืนยันว่าตนพร้อมจะวางมือทางการเมืองและเคยยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าตนเองเป็นอุปสรรคของพรรคประชาธิปัตย์ก็ขอให้มีการเลือกตั้ง ขอให้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ถ้าตนเป็นอุปสรรคจริงก็พร้อมที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ทุกคนสบายใจ และใครที่ไม่มีหน้าที่กับพรรคประชาธิปัตย์ก็ขออย่าให้มาแสดงความคิดเห็น
นายเฉลิมชัยกล่าวว่าการประชุมพรรคประชาธิปัตย์แต่ละครั้งใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท เกือบ 4 ล้านบาท เป็นเงินที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจให้พรรคนำมาทำกิจกรรมทางการเมือง ไม่ใช่ให้นำเงินมาใช้ผลาญเล่นแบบนี้ วันนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายต้องดูให้ดีว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่ คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใครคงรู้ตัวกันหมด
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวว่าหลังจากนี้ก็ต้องเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค ซึ่งต้องมีการนัดประชุมครั้งใหม่ เมื่อถามว่าหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยเรื่อยจะมีวิธีการอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่าที่จริงแล้วรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคก็อยากให้เดินหน้า
เมื่อถามว่าจะสามารถดำเนินการให้เด็ดขาดอย่างไรได้บ้าง นายเฉลิมชัย กล่าวว่าในข้อบังคับพรรคกำหนดชัดเจนในส่วนของการประชุมคงไม่สามารถไปทำอะไรได้ แต่จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินไปข้างหน้าจะมาถ่วงกันแบบนี้ตนว่าไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าองค์ประชุมล่ม รายชื่อผู้ที่ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นรายชื่อเดิมหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้สามารถดูที่นายทะเบียนของพรรคได้ตนยืนยันว่านี่ไม่ใช่การล่มโดยธรรมชาติแต่เป็นการล่มโดยเจตนา ซึ่งก่อนล่มทุกครั้งตนทราบก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันทุกครั้ง
เมื่อถามว่าครั้งนี้ก็ทราบล่วงหน้าใช่หรือไม่ว่าองค์ประชุมจะล่ม นายเฉลิมชัยกล่าวว่าทราบเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ส่วนภายในเดือนสิงหาคมนี้จะได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าถ้ามีจิตสำนึกกว่านี้ ขอฝากให้ช่วยกันปลุกจิตสำนึก
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวว่า การประชุมครั้งหน้า ตนน่าจะต้องไปเช่าเต็นท์มา เพราะพรรคก็จะไม่มีตังค์อยู่แล้ว ครั้งหนึ่งก็ 3-4 ล้านบาท ไปเช่าเต็นท์มาก็ได้เหมือนกัน และอาจจะต้องกินข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ไม่ได้กินข้าวกล่องดีๆ
เมื่อถามย้ำว่ามองเรื่ององค์ประชุมล่มเพื่อต้องการอะไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนจึงอยากฝากสื่อไปถามว่าอยากให้เกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่าฝากไปแล้วกันถ้ามีจิตสำนึกหรือสันดาน ที่ตนพูด ถ้ามีจิตสำนึกก็จบ ขณะที่วันนี้ สส. ก็มาเข้าร่วมประชุมเกือบครบ
นายเฉลิมชัย ยังบอกว่าตอนนี้มี สส. ที่ต้องการเดินแนวทางเดียวกับตน มีทั้งหมด 21 คน
Advertisement