Home การเมืองกองทัพ “สุทิน” เผย หลังพบ “บิ๊กโอ๋” เข้าใจกองทัพมากขึ้น

“สุทิน” เผย หลังพบ “บิ๊กโอ๋” เข้าใจกองทัพมากขึ้น

“สุทิน” เผยได้ความรู้ แนวทางปฏิบัติงานในตำแหน่ง รมว.กห.จาก “พล.อ.อ.สุกำพล” ทำให้ทราบกองทัพมีแผนลดเกณฑ์ทหาร-ลดกำลังพลอยู่แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ เผยคุยผู้นำเหล่าทัพสัญญาณดี ย้ำเดินสายพบอดีตนายทหารไม่ใช่ไม่พร้อม แต่เป็นการเรียนรู้งาน พร้อมพบ 2 ป. รอเวลาเหมาะสม

by Editor staff

ไฮไลท์การเมือง : 4 กันยายน 2566 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต หรือ “บิ๊กโอ๋”  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่บ้านพักส่วนตัว ซอยพหลโยธิน 62/1 เพื่อขอคำแนะนำในการทำงานโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกัน โดยนายสุทิน กล่าวว่า การพูดคุยทำให้ได้ความมั่นใจและความรู้ ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลเชื่อมั่นว่าตนจะทำได้ จึงถ่ายทอดความเป็นรัฐมนตรีว่าจะต้องบริหารอะไรบ้าง สิ่งสำคัญอันดับ 1 2 และ 3 คืออะไร ต้องวางตัวอย่างไร บางเรื่องให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์มาก ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยกับทหารหลายกลุ่ม ประมวลแล้วถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี มีกำลังใจในการทำงาน

“การพบกันวันนี้ไม่ได้มีการสะท้อนอะไร แต่เราได้เห็นสัญญาณทางกองทัพเปิดใจกว้างรับพลเรือน และเราก็จับสัญญาณได้ว่าหากเราเข้าใจเขา มีแนวปฏิบัติชัดเจน ทำให้เขาเชื่อมั่นว่าเราทำเพื่อชาติ เชื่อว่าทหารไม่มีปัญหา ไม่ได้ลำบากใจ แต่ก็ไม่ประมาท”

เมื่อถามย้ำกรณีที่ระบุว่าเรื่องไม่ประมาท เพราะมีบทเรียนมา 2 ครั้งแล้วใช่หรือไม่จากรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย นายสุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้คิดเรื่องนั้น และไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องนำมาคิดด้วย ถ้าเราคิดว่าเรารู้ดีแล้ว ชำนาญแล้ว นั่นคือประมาท

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องยกเลิกเกณฑ์ทหารและงบจัดซื้อเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อวาน (3 ก.ย.) ได้พูดคุยกับ 3 เหล่าทัพ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งเรื่องการเกณฑ์ทหารเมื่อได้พูดคุยกันแล้วทราบว่ากองทัพคิดมานานแล้ว เขาทำเป็นขั้นตอน แต่ถ้าหากให้เร็วตามที่สังคมต้องการ รัฐบาลจะต้องเข้าไปกำกับและสนับสนุน จึงไม่หนักใจ

“เรื่องทหารเกณฑ์ เขาจะเลือกกันเดือนเมษายน ซึ่งทางปลัดกระทรวงกลาโหมเคยบอกว่าศึกษาเรื่องนี้ไว้แล้ว สามารถทำได้เลยเรื่องการเปิดรับสมัครแบบสมัครใจ ซึ่งหากจำนวนที่สมัครแบบสมัครใจเต็มแล้วก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือต้องมีทหาร เพราะเขาประเมินแล้วว่าศักยภาพของกองทัพต้องมีกำลังพลเท่าไหร่ เราจึงจะต้องเปิดรับสมัครก่อน และการที่เราจะเปิดรับสมัครได้เยอะ เราต้องสร้างแรงจูงใจคือเพิ่มสวัสดิการให้ดีขึ้นและปรับทัศนคติ ไม่ให้มีทัศนคติเชิงลบกับทหารเกณฑ์ ที่ยังติดภาพการฝึกแบบโหดร้าย ทารุณ เด็กเจ็บ  ตาย เราต้องกลับความเชื่อเขา โดยเฉพาะผู้ปกครองในต่างจังหวัด ว่าเอาลูกเขามาเป็นทหารเกณฑ์ ได้เงินเดือนจริงแต่รับจริงไม่ถึง เราต้องพูดให้ชัดว่าเด็กที่เป็นทหารเกณฑ์ต่อไปนี้จะได้รับเงินเดือนเต็ม หักก็หักเท่าที่จำเป็น เราจะได้อธิบายได้ เข้าบัญชีโดยตรง ส่วนเรื่องการปรับลดกำลังพลเป็นเรื่องของการปรับสัดส่วนของนายพลที่บอกว่าเยอะเกินไป โดยกองทัพก็มีแผนอยู่แล้ว ปี 2570 ขนาดของกองทัพจะเปลี่ยน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาวางไว้ รัฐมนตรีมีหน้าที่ช่วยให้เป็นไปตามแผน” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามย้ำถึงกรณีเรือดำน้ำที่ทางกองทัพเรือเตรียมให้นายสุทินลงนามและเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์จีน นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ตนจะพูดเรื่องนี้ แต่เท่าที่พูดคุยถือว่ามีทางออก เป็นทางออกที่ดีด้วย แต่ขอพูดหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

นายสุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายสุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการฝ่ายความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รวมทั้งยังมีคิวที่กำลังประสานอยู่ เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คาดว่าจะได้พบก่อนวันแถลงนโยบายรัฐบาล

ส่วนจะขอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบกด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็จะไปพบ ไม่เลือกฝ่ายไหน

เมื่อถามว่าการเดินสายพบบุคคลสำคัญแสดงให้เห็นว่ายังไม่พร้อมในการบริหารกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นสไตล์การทำงานของตน เราคิดว่าขอความรู้ ขอประสบการณ์ เป็นน้ำที่ยังไม่เต็มตุ่ม มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ และการที่ไปพบก็ได้ความรู้กลับมาทั้งนั้น ส่วนการเข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหม ต้องรอให้แถลงนโยบายก่อน

พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่าที่พูดคุยกันวันนี้ ชี้แจงให้ฟังว่าเข้าไปแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่พลเรือนเข้ามาคุมทหาร ซึ่งได้พูดคุยกันก็มีความเข้าใจ นายสุทินรับได้เยอะและคงไปเตรียมตัวเองให้พร้อม คิดว่าเมื่อพลเรือนมาคุมทหาร มีจิตใจที่ดี ทหารก็คงมีจิตใจที่ดี ทุกอย่างก็จบ เข้าหากันคนละครึ่งทาง

Advertisement

Related Articles

Leave a Comment

Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00