ไฮไลท์การเมือง : 5 ตุลาคม 2566 ผบ.ตร. ขึ้นเหนือ บูรณาการทุกภาคส่วน คุมเข้มมาตรการการป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือ เน้นการประสานงานผู้ปฏิบัติ การจัดทำฐานข้อมูลยาเสพติด สืบสวนขยายผล ใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามนโยบายรัฐบาล กำชับห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเด็ดขาด
วันนี้ (5 ต.ค.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 รรท.ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด. รรท.ผบช.ตชด. , นายศรัณยู มีทองคำ รอง ผวจ.เชียงราย , พล.ต.สมจริง กอรี รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., นายบุญรอด เขจรานนท์ ผอ.ส่วนการควบคุมศุลกากรฯ, นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญ ปปส.ภ.5 พร้อมตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศุลกากร นรข.เชียงราย เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนมาตรการการป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือของ ตร. ณ ห้องประชุม 2 ด่านศุลกากรเชียงแสน จังหวัดเชียงราย การประชุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดทุกรูปแบบ ผบ.ตร.จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดนภาคเหนือ ประชุมหารือ กำหนดมาตรการร่วมกัน
ผบ.ตร.กำชับการประสานร่วมกันปฏิบัติของหน่วยงานในพื้นที่ในการสืบสวน ปราบปราม และงานด้านการข่าว ที่ผ่านมาการปฏิบัติเป็นไปในลักษณะแต่ละหน่วยต่างฝ่ายต่างดำเนินการขาดการประสานงานร่วมกัน ขอให้ทุกหน่วยดำเนินการประสานการปฏิบัติร่วมกันในทุกมิติแบบไร้รอยต่อ เพื่อส่งต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารโดยละเอียด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
การขยายผลการจับกุม เมื่อมีการจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ ให้มีดำเนินการสืบสวนขยายผลในทุกคดี โดยให้จัดทำเป็นผังเครือข่ายความสัมพันธ์หน้าที่ของแต่ละบุคคลภูมิลำเนาที่อยู่ บัญชีธนาคาร เส้นทางการเงิน การติดต่อสื่อสาร หมายเลขโทรศัพท์ ยานพาหนะ รวมถึงให้มีการเฝ้าระวังติดตามกลุ่มบุคคล เครือข่าย และยานพาหนะ เพื่อหยุดยั้งกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด
นำมาตรการในการยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ทรัพย์สินที่ได้มาหรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดให้ทำการยึดหรืออายัดทรัพย์สินในทุกคดี พร้อมทั้งทำรายละเอียดประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบ ว่าหากเข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบ เพื่อทำการตรวจยึด หรืออายัดทรัพย์สินทุกราย
ต้องมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลผู้เสพยาเสพติดในชุมชน รวมถึงผู้เสพที่เป็นประชากรแฝงในพื้นที่ ให้ทุก สภ. ประสานการปฏิบัติกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อดำเนินการค้นหาและนำตัวผู้เสพซึ่งอยู่ในฐานะผู้ป่วยตามกฎหมาย เข้าสู่กระบวนการบำบัด รักษา ฟื้นฟู เพื่อให้โอกาสผู้เสพกลับมาเป็นพลเมืองดีของสังคม กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกภาคส่วน ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลหรือกลุ่มกระบวนการค้ายาเสพติดโดยเด็ดขาด
ให้แต่ละหน่วยงานสรุปรายละเอียดปัญหาข้อขัดข้อง และแนวทางการแก้ไขในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนที่อยู่ในความรับผิดชอบ เสนอ ผบ.ตร. เพื่อสรุปนำเรียนท่านนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายและวางมาตรการ สนับสนุนความต้องการในสิ่งที่ขาดแคลนของแต่ละหน่วย
หากมีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ, นักค้าเครือข่ายยาเสพติด และคดีที่ข้าราชการตกเป็นผู้ต้องหาหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ให้ รอง ผบก. และ รอง ผบช. ที่รับผิดชอบงานยาเสพติด เข้าควบคุมกำกับ สั่งการ บริหารคดีด้วยตนเอง และเมื่อมีการจับกุมคดียาเสพติดให้ทุกหน่วยในสังกัด ทำเรื่องเบิกค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ และเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องในทุกคดี รวมถึงให้แสวงหาความร่วมมือขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานร่วมกันปฏิบัติในการขับเคลื่อนภารกิจงานด้านการป้องกัน ปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เพื่อให้ทุกหน่วยมีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจทั้งองคาพยพ
Advertisement