ไฮไลท์การเมือง : 24 พฤศจิกายน 2566 “พิธา” ประกาศ “ก้าวไกล” พร้อมชนะกว้าง-ชนะลึก เตรียมสู้ศึก อบจ. ชู 3ข “ขยับ-ขยาย-แข่ง” ภูมิใจคะแนนเลือกตั้งอุดรธานี เพิ่มขึ้นมีนัยสำคัญ หวังเก็บชัยเลือกตั้ง อบจ.อุดรฯ รอบนี้ ชี้ประเทศไทยต้องกระจายอำนาจ งบประมาณ-บุคลากร-ภารกิจ เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเยือนจังหวัดอุดรธานี ร่วมเวทีบรรยาย “ก้าวต่อไป อุดรท้องถิ่น” จัดขึ้น ณ โรงแรมสยามแกรนด์ โดยมีนายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ ส.ส.อุดรธานี เขต 1 พร้อมด้วยสมาชิกพรรคก้าวไกล จังหวัดอุดรธานี และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกว่า 400 คน
ช่วงต้นของการบรรยาย นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่เสียกำลังใจและมีสมาธิพร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน คะแนนเลือกตั้งที่พี่น้องชาวอุดรธานีมอบให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ เริ่มต้นที่ 140,000 คะแนน จนมาถึงพรรคก้าวไกล ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อปี 2563 เพิ่มเป็น 180,000 คะแนน และ 220,000 คะแนน จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เชื่อว่าเลือกตั้ง อบจ. รอบนี้จะเก็บคะแนนเพิ่มและคว้าชัยชนะแน่นอน
ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึง “3ข” ได้แก่ “ขยับ” เนื่องจากพรรคก้าวไกลมี ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานกรรมาธิการที่ดินฯ ก็เป็นของก้าวไกล จึงพร้อมเดินหน้าผลักดันและขยับเพื่อชาวอุดรธานี ต่อมาคือ “ขยาย” พรรคต้องขยายฐานสมาชิกให้มากขึ้น ขยายอาสาสมัครและแนวร่วมให้มากขึ้น เมื่อขยายแล้วจึงพร้อม “แข่ง” โดยไม่ต้องรอถึง 4 ปี ในการเลือกตั้งใหญ่ เพราะยังมีการเลือกตั้ง อบจ. ที่ต้องแข่งขันในระดับท้องถิ่น
นายพิธา กล่าวถึงการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะมาถึงว่า พรรคก้าวไกลต้องการชนะในหลายจังหวัด เพื่อขยายผลจากการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา จากข้อมูลจะพบว่ามีประมาณ 40 จังหวัดทั่วประเทศ ที่คะแนนของพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 แต่ยังเหลืออีก 20-30 จังหวัด ที่คะแนนพรรคมาเป็นอันดับ 2 ดังนั้น ต้องเดินหน้ารณรงค์เต็มที่ โดยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งตัวแทนผู้สมัครลงเลือกตั้งครบทุกจังหวัด แต่อุดรธานีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เราส่ง และตนจะเดินทางมาหาเสียงที่อุดรธานีด้วยตัวเองอย่างแน่นอน มั่นใจว่าจะปักธงที่อุดรธานีได้ เนื่องจากมีคนทำงานท้องถิ่นอยู่แล้ว มี ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ทำงานอย่างแข็งขัน และคะแนนของพรรคก็โตขึ้นโดยตลอด ภายในระยะเวลา 1 ปี ตนมั่นใจว่าจะสามารถชนะได้
นายพิธา ยังได้ยกตัวอย่างการเมืองแนวกว้างที่พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศครั้งที่ผ่านมา ที่ชนะทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้สูงอายุ ชนะในทุกจังหวัด สิ่งเหล่านี้คือชัยชนะในแนวกว้าง แต่ขณะเดียวกันต้องชนะในแนวลึกต่อไป นั่นคือสนามท้องถิ่น เพราะปัญหาของคนอุดรฯ ต้องแก้ไขด้วยคนอุดรฯ ปัญหาของคนท้องถิ่นต้องแก้ไขด้วยท้องถิ่นเอง ขณะที่หน้าที่ของผู้แทนฯ คือพูดแทนประชาชนในสภาฯ และผ่านกฎหมาย แต่หน้าที่ของนักการเมืองท้องถิ่น คือแก้ไขปัญหาให้ท้องถิ่น
ประเทศไทยต้องมีการกระจายอำนาจ และให้ท้องถิ่นแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ยกตัวอย่างปัญหาของคนอุดรธานี เช่น ปัญหาขยะ 1,400 ตันต่อวัน แต่กลับมีงบประมาณในการจัดการ 10 ล้านบาทต่อปี เพราะวิธีคิดคือเก็บภาษีและส่งไปยังส่วนกลางแล้วคิดตัวเลขกลับมา หรือปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย แต่กลับมีงบประมาณในการแก้ไขเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นได้รับงบประมาณน้อย เราไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้
ใน 4 ปีข้างหน้า หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล และทำเรื่องการกระจายอำนาจแบบค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มงบปีละ 2 แสนล้านบาททั่วประเทศ และได้นายก อบจ. เป็นของก้าวไกล รวมถึงมี ส.ส. ของก้าวไกลในสภาฯ เป็นแบบนี้ประเทศต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอน ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนไม่อยากให้เก็บภาษีแล้วส่งเข้ากรุงเทพฯ หากอยากให้ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง และทำงานเพื่อพี่น้องชาวอุดรธานี ขอให้ยึดแนวทางแบบพรรคก้าวไกล ประเทศไทยต้องมีการกระจาย 4 ด้าน ได้แก่ กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และกระจายภารกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาของคนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
Advertisement