ไฮไลท์การเมือง : 13 มิถุนายน 2567 นายกฯ ติดตามความก้าวหน้า การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และการซ่อมแซมการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันนี้ (13 มิถุนายน 2567) เวลา 10.40 น. ณ กองบังคับการ กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามความก้าวหน้าการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง โดยมีนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะ ร่วมตรวจติดตามความก้าวหน้าในครั้งนี้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปความก้าวหน้าในการเตรียมความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (กองทัพเรือ) และรับฟังบรรยายสรุปความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง จากผู้บริหารกรมศิลปากร เมื่อรับฟังการบรรยายสรุปแล้วเสร็จ นายกฯ กล่าวเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในฐานะที่ตนเองมาจากภาคเอกชนได้มีความภาคภูมิใจ เห็นถึงความสวยงาม และความอลังการ ถือเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่พยายามตอบรับเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องของการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยนายกฯ ขอให้ทีมงานประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยทำให้งานพระราชพิธีฯ บรรจุในตารางการ promote
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า เห็นถึงความทุ่มเทและรายละเอียดการทำงาน หากมีการเก็บภาพการพัฒนาเบื้องหลัง การซ่อมแซมการจัดงานใหญ่ครั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถนำไปใช้ promote ให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เห็นว่าประเทศไทยมีประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงาม พร้อมกับมอบให้สำนักนายกรัฐมนตรีดูแลความเรียบร้อย และจัดงานครั้งนี้อย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นายกฯ รับฟังการบรรยายฯ ได้รับมอบกระเช้าและหมวกประดับตราพระราชพิธีฯ สีน้ำเงินเข้ม จากกองทัพเรือ และรับมอบรูปพระพิฆเนศ จากกรมศิลปากร เป็นของที่ระลึก
จากนั้น นายกฯ ไปตรวจติดตามการซ่อมแซมการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และได้ประดับทองคำเปลวบนบุษบกที่ตั้งอยู่บนเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน รวมทั้งสอบถามเรื่องงบประมาณว่ามีเพียงพอหรือไม่ พร้อมฝากคำแนะนำถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
ต่อจากนั้น นายกฯ ได้ไปบ่อพักเรือ แผนกเรือราชพิธี เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมกำลังพลฝีพาย และชมการสาธิตการพายประกอบการเห่เรือพระราชพิธี จากกำลังพลฝีพาย 867 นาย โดยนายกฯ กล่าวให้โอวาทว่า ยินดีที่ได้มาพบกับกำลังพลทุกคนในวันนี้ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีความสำคัญ และหน้าที่ที่ทุกท่านได้รับผิดชอบเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้กำลังพลทุกคนภาคภูมิใจ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การจัดพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นไปอย่างสมพระเกียรติสูงสุด
สำหรับการดำเนินการในส่วนของกรมศิลปากร จะเป็นการตกแต่งรายละเอียด เช่น วาดลวดลาย ติดกระจกเกรียบกระจกสีทำจากแร่ดีบุก ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ก่อนจะมีการอัญเชิญเรือพระที่นั่งลงน้ำ เพื่อเตรียมการในส่วนของการฝึกซ้อมฝีพาย นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 27 – 29 กรกฎาคม 2567 กองทัพเรือ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จัดแสดงแบบผูกทุ่น ประกอบกาพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ณ บริเวณท่าราชวรดิฐ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ในส่วนการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ใช้เรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น 2,200 นาย และงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567
Advertisement